โรงงานผลิตอาหาร

โรงงานผลิตอาหาร

โรงงานผลิตอาหาร

โรงงานผลิตอาหาร การทำธุรกิจด้านอาหารเมื่อเติบโตขึ้นย่อมอยากได้ขยายธุรกิจเป็นโรงงานเพื่อรองรับการผลิตที่มากกว่าเดิม ถ้าเลือกโรงงานให้เช่า นี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรยุ่งยากนักในเรื่องการดำเนินงานขอก่อตั้ง โรงงาน ผลิตอาหาร แต่ว่าถ้าหากอยากสร้างโรงงานผลิตอาหารเองก็ควรต้องทราบขั้นตอนต่างๆอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้มีปัญหาทางด้านกฎหมายตามมา ซึ่งนี่เป็น 4 ข้อควรรู้ก่อนที่จะตัดสินใจสร้างโรงงานผลิตของกิน ลองดูว่าในที่สุดจะตกลงใจสร้างเองหรือเช่าโรงงานไปก่อนดี

ขั้นตอนก่อน การผลิตโรงงานผลิตอาหาร ให้เป็นไปตามมาตรฐาน

แต่ก่อนที่จะไปศึกษาถึงขนาดตอนต่างๆก่อนสร้างโรงงานผลิตอาหาร จำเป็นต้องรู้ดีว่าในกรณีสถานที่ผลิตอาหารจะถูกยกระดับเป็นโรงงานได้ต้องเป็นไปตาม พระราชบัญญัติ โรงงาน พุทธศักราช 2562 โดยประเด็นหลักๆเป็น มีเครื่องจักรที่ใช้งานตั้งแต่ 50 แรงม้าขึ้นไป หรือมีคนงานมากยิ่งกว่า 50 คนขึ้นไป จะมีหรือไม่มีเครื่องจักรก็ได้ แล้วหลังจากนั้นก็เลยไปสู่กรรมวิธีการต่างๆดังนี้

1.ยื่นเรื่องตรวจประเมินมาตรฐานสถานที่การสร้างผู้ที่พอใจก่อตั้งโรงงานผลิตของกินควรจะมีการยื่นเรื่องเพื่อให้ข้าราชการเข้ามาวิเคราะห์สถานที่ผลิตและก็จัดเก็บข้อมูล โดยแนบเอกสารต่างๆจากที่ถูกวิงวอน ไปยื่นพอดีศูนย์บริการสินค้าสุขภาพจิปาถะ (One Stop Service Center)ในสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ในเรื่องที่ก่อตั้งในกรุงเทพ แต่ถ้าจัดตั้งในบ้านนอกก็ไปยื่นเรื่องกับที่ทำการสาธารณสุขประจำจังหวัด ซึ่งถ้าผู้ใดไม่สะดวกจริงๆจะยื่นผ่านหนทางออนไลน์ก็ได้

2.ยื่นเรื่องขออนุญาตก่อตั้งโรงงานเมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจทานเป็นระเบียบและไม่มีปัญหาอะไรก็แล้วแต่ก็จะไปสู่การยื่นเรื่องขอจัดตั้งโรงงานเพื่อผลิตของกิน โดยนำเอกสารต่างๆไปยื่นคำขอที่เดียวกับการยื่นเรื่องตรวจประเมินสถานที่การสร้าง มีค่าธรรมเนียม 2,000 บาท ดังนี้เอกสารที่จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในการไป ดังเช่นว่า

  • คำขออนุญาตก่อตั้งโรงงานตามแบบ อ1. 1 ฉบับ
  • สำเนาใบทะเบียนการค้าหรือใบทะเบียนการขาย 1 ฉบับ
  • สำเนาทะเบียนบ้านผู้ขออนุญาต 1 ฉบับ
  • แผนที่แสดงที่ตั้งของโรงงานและสิ่งก่อสร้างที่อยู่ในบริการใกล้เคียง
  • แบบแปลนแผนผังที่ถูกต้องตามมายี่ห้อส่วน 1 ชุด (ถ้าหากเป็นต่างจังหวัดใช้ 2 ชุด)
  • แผนผังแสดงสิ่งปลูกสร้างบริเวณที่ดินโรงงาน แล้วก็ระบบกำจัดน้ำเสียรวมทั้งบ่อบาดาล (ถ้ามี)
  • กรณีเป็นนิติบุคคลจะมีเงื่อนไขเพิ่มเติมอีกคือ สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล 1 ฉบับ หรือ สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น 1 ฉบับ (นิติบุคคลที่เป็นบริษัท) รวมทั้งหากผู้ขออนุญาตไม่สบายสำหรับการมายื่นคำร้องด้วยตนเองก็จะต้องมีหนังสือมอบฉันทะควบคุมเพื่อเป็นหลักฐานเอาไว้ด้วย

3.ได้รับใบอนุญาตเพื่อการสร้างเมื่อผลออกมาว่าผ่านการอนุญาต สามารถดำเนินกิจการได้จะมีการออกเอกสารชำระค่าธรรมเนียมตั้งแต่ 3,000 บาท ไปจนกระทั่ง 10,000 บาท หรือมากยิ่งกว่าอยู่ที่แรงม้าเครื่องจักรหรือจำนวนคนงาน จากนั้นเจ้าหน้าที่มีการส่งใบอนุมัติ และเอกสารฉบับนี้จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค. ของปีที่ 3 ตั้งแต่แมื่อได้รับเอกสารสิทธิ์ ซึ่งเอกสารดังที่กล่าวมาข้างต้นมีความสำคัญมาก จำเป็นต้องแสดงให้คนอื่นๆเห็นได้ในที่เปิดเตียน มีการติดตั้งด้านนอกโรงงาน

4.ทำงานขอการสร้างของกิน (รับเลขสารบบอาหาร)หากว่าตัวโรงงานจะผ่านสุดแต่ยังต้องยื่นขอเพื่อให้ได้รับเลขสารบบอาหารของผลิตภัณฑ์ที่จะทำขึ้นมา ซึ่งเลขสารบบของกินที่ว่านี้ก็คือ ตัวเลข 13 หลักที่เราเห็นกันอยู่ในสัญลักษณ์ อย. บนตัวฉลากบรรจุภัณฑ์นั่นเอง รหัสดังที่กล่าวถึงแล้วบอกถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์และสถานที่ผลิต แบ่งออกได้ 4 ชนิด คือ

  • ของกินควบคุมเฉพาะ
  • อาหารที่มีการกำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน
  • ของกินที่จะต้องมีฉลาก
  • อาหารทั่วไป

ถ้าเกิดยุ่งยากเกินไป เลือกใช้บริการโรงงานให้เช่า

  • เพื่อผลิตอาหารดียิ่งกว่าจากขั้นตอนต่างๆที่กล่าวมานี้นับว่ามีความยุ่งยากอยู่พอเหมาะพอควร ซึ่งจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาจัดการและก็บางทีอาจจะต้องปรับแก้กันหลายรอบ คงดียิ่งกว่าแน่ๆถ้าหากเปลี่ยนแปลงแนวความคิดจากการผลิตโรงงานไปเป็นการเช่าโรงงานแทน สมมุติว่ามองทำเล โรงงานพระราม 2 เอาไว้ ก็สามารถเลือกผู้ให้เช่าได้หลายราย โดยจุดเด่นสำคัญๆของการเลือกโรงงานให้เช่าคือ
  • ไม่ยุ่งยากหัวข้อการขอเอกสาร เพราะเหตุว่าโรงงานให้เช่ากลุ่มนี้จะดำเนินการไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
  • ตัวโรงงานผ่านมาตรฐานการผลิต
  • ลงทุนน้อย ไม่ต้องเสียเงินเสียทองสร้างโรงงานขนาดใหญ่ด้วยตัวเองระยะเวลาปฏิบัติการรวดเร็วทันใจ สามารถเดินหน้าธุรกิจได้ทันที

ได้ทำเลที่ตั้งที่ดี ในราคาที่เหมาะสมคนใดกันแน่ที่มีแนวคิดต้องการเริ่มธุรกิจผลิตอาหารเป็นของตนเองแต่ว่ามีทุนน้อย ไหมมีผู้ช่วยเพื่อปฏิบัติงานในด้านต่างๆเลือกใช้บริการบรรดาโรงงานที่เปิดให้เช่าเพื่อผลิตอาหารโดยเฉพาะ แล้วเอาเวลาไปวางแผนดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จน่าจะดีมากยิ่งกว่า

ประเภทอาหารเสริมที่ขายดิบขายดีกระทั่งผลิตไม่ทัน

1.อาหารเสริมจำพวก Detox

ปัจจุบันนี้การบริโภคอาหารของคนประเทศไทยส่วนมากจะเน้นเป็นของกินพวก Fastfood ซึ่งแม้บริโภคบ่อยๆจะก่อให้มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายหรือปัญหายอดนิยมของคนเมืองวัยเอ๊าะๆออฟฟิส ก็เห็นจะหนีไม่พ้นโรคท้องผูก ซึ่งอาหารเสริมที่เป็นเทรนด์อยู่ขณะนี้รวมทั้งมียอดสั่งถล่มทลายจนถึงโรงงานผลิตอาหารเสริมผลิตเกือบจะไม่ทัน ก็เห็นจะเป็นอาหารเสริมจำพวก ดีท๊อกซ์ ไส้นั่นเอง โดยอาหารเสริมชงดื่มที่ใช้สารสกัดประเภทผักแล้วก็ผลไม้ โดยมีรสชาติขายดิบขายดียกตัวอย่างเช่น กีวี ที่ผู้บริโภคนิยมเป็นอันมาก โดยสารสกัดพวกผักและผลไม้นี้จะไปทำชำระล้างไขมันที่อยู่ในลำไส้โดยผลิตภัณท์ที่ขายดิบขายดีเป็นอย่างยิ่ง

2.อาหารเสริมบำรุงผิว คอลลาเจนชงดื่ม

เนื้อข้นเราบางครั้งอาจจะเคยชินสารสกัดจำพวกคอลลาเจนมาได้กันซักระยะหนึ่งสุดแต่ อาหารเสริมเทรนด์ใหม่ที่นิยมกันมากมายก่ายกองเป็นต้นว่าพวก คอลลาเจนแบบเนื้อข้น โดยมักจะผลิตออกมาเป็นลักษณะของ โยเกิร์ต รวมทั้ง สมูทตี้ โดยสามารถเลือกกลิ่นรวมทั้งรสผลไม้ได้หลายแบบ อย่างเช่น เมลล่อน หรือ เบอร์ปรี่สกัดต่างๆด้วยรสชาติที่อร่อยรวมทั้งมีความแปลกใหม่ตรงความเข้มข้นของสารกสัดทำให้เป็นอาหารเสริมที่ขายดีเป็นอันมาก

3.อาหารเสริมลดความอ้วน block burn

อาหารเสริมจำพวกลดน้ำหนักก็ยังเป็นเทรนด์ที่ขายดิบขายดีมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งในปี 2017 นี้ ได้มีการเปิดเผยออกมาจากโรงงานผลิตอาหารเสริมเองเลยว่า มียอดผลิตอาหารเสริมที่ใช้สารสกัดจาก L-Carnitine L-Tartrate ที่ช่วยในการสร้างกล้ามรวมทั้งช่วย Block ไขมัน จึงทำให้ผลิตภัณท์มียอดขายที่สูงแล้วก็เป็นการสกัดที่ผู้คนนิยมกันอยู่ในขณะนี้ โดยแบรนด์อาหารเสริมที่มียอดจำหน่ายสูงในตอนครึ่งปีแรก

หลายๆครั้งเราจะได้ยินว่าอาหารเสริมมีคุณประโยชน์นะ

ทำให้ผิวขาว สวยใส อย่าง คอลลาเจน วิตามินต่างๆและ ยังมีอาหารเสริมบางตัวช่วยด้านลดน้ำหนักอย่าง แอลคานิทีน แล้วเราควรต้องกินอาหารเสริมไหมในความเป็นจริงแล้วชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า อาหารเสริม ซึ่งไว้เสริมในส่วนที่เราขาด ก็คือถ้าพวกเรา ขาดสารอาหารจากการกินอาหาร 5 หมู่และก็พักน้อย เราก็จะต้องมาใคร่ครวญกันละว่าอาหารเสริมนั้นต้องไหม

เราอาจรับสารอาหารน้อยเกินไปวิถีชีวิตของคนภายในปัจจุบันนั้นแปรไปมากมาย ทำงานหนัก เครียด พักผ่อนน้อยเกินไป ทานอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ ทำงานไม่ลุกไปไหนนั่งแต่ที่ออฟฟิต แถมไม่บริหารร่างกายอีก อันนี้ก็เป็นการทำลายตนเองเหมือนกันนะ ทำให้ปัจจุบันโรค ความดันโลหิตสูง, อ้วนลงพุง, คอเรทตรอคอยรอนสูง รวมทั้งเบาหวาน เข้ามาเป็นโรคยอดนิยมของวัยรุ่น ออฟฟิตในตอนนี้ หากเราเปลี่ยนแปลงการกระทำ เป็นบริหารร่างกายบ้าง รับประทานอาหารที่มีคุณประโยชน์ ก็ยังไม่ช้าเกินความจำเป็นนะครับ

อาหารเสริมต่างๆชดเชยอาหารหลักของพวกเราได้ไหม?

ได้มีการทำการวิจัยจากคนอเมริกาพบว่า ผู้ที่ทานอาหารหลัก ธรรมดาทั่วไป ยังรับสารอาหารไม่เพียงพอ ทำให้ขาดสารอาหารบางตัว การรับประทาน”อาหารเสริม”จึงเป็นอีกช่องทางสำหรับเพื่อการมาช่วยเสริมให้ส่วนที่ขาดจากสารอาหารบางตัว แต่ว่าพวกเราควรจะรับประทานอาหารเสริมอย่างเหมาะเจาะและไม่ทานเยอะจนกระทั่งเหลือเกิน

เพราะเหตุว่าอาจมีการสั่งสมมากจนเกินไป ทำให้เป็นโทษในระยะยาวได้ อย่างวิตามินบางตัวละลายในไขมันอาทิเช่น วิตามินดี วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินเค เหล่านี้สะสมอยู่ในร่างกายได้ แต่ว่าจะมีวิตามินที่ละลายในน้ำอย่างวิตามินซี ถ้าได้รับมากจนเกินความจำเป็น ก็จะถูกขับออกทางปัสสาวะทำให้ไม่สะสมอยู่ภายในร่างกาย แต่ว่าหากเรากินอาหารเสริมหรือวิตามินมากจนเกินไป จะมีผลให้ระบบการขับถ่ายทำงานหนัก อาจมีผลกับไตได้ในระยะยาว รวมทั้งทำให้เราสิ้นเปลืองเหลือเกินอีกด้วย

สินค้าเสริมอาหาร หรือที่รู้จักกันทั่วๆไปในนาม “อาหารเสริม”

นั้นปัจจุบันได้มีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตของคนเรามากเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเสริมอาหารที่ช่วยในเรื่องความสวยความงาม อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์เสริมของกินที่ใช้ควบคุมน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ลดความเหี่ยวย่นของผิวหนัง นอกเหนือจากความสวยสดงดงามยังมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวโยงกับการเสริมความสามารถของร่างกายด้านต่างๆ

ซึ่งในกรุ๊ปหลังนี้จะเน้นย้ำกลุ่มเป้าหมายไปที่ผู้สูงวัย และก็ผู้ป่วยที่อยู่ตอนพักฟื้นถ้าได้เดินชมห้างร้านต่างๆในตลาดจะพบว่ามีผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้วางขายกันมากมายชื่อการค้า หลายรูปแบบ และก็มีการโฆษณาชวนเชื่อหลายต้นแบบ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีความสับสน และตกลงใจได้ยากว่าจะเลือกสินค้าประเภทใดจึงจะสมควร และก็สินค้าเหล่านั้นจะส่งผลดีต่อสภาพร่างกายอย่างที่พึงพอใจไหม ในเนื้อหานี้จะนำท่านไปสู่โลกแห่งผลิตภัณฑ์เสริมของกินเพื่อไขข้อสงสัยให้แจ้งชัดชัดเยอะขึ้น

สมุนไพร รวมทั้งสินค้าเสริมอาหาร

ผลิตภัณฑ์เสริมของกินส่วนใหญ่ที่มีในท้องตลาดได้มาจากสมุนไพร คำว่า “สมุนไพร” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถานที่ ปีพุทธศักราช 2546 กล่าวว่า “สมุนไพร สะ-หมุน-ไพร น. ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ได้จากพืช สัตว์ รวมทั้งแร่ ที่ใช้เป็นยา หรือผสมกับสารอื่นตามตำรับยา เพื่อบำบัดโรค บำรุงร่างกาย หรือใช้เป็นยาพิษ

ดังเช่น กระเทียม น้ำผึ้ง รากดิน (ไส้เดือน) เขากวางอ่อน กำมะถัน ยางน่อง โล่ติ๊น.”เห็นได้ว่าสมุนไพรครอบคลุม พืช สัตว์ และก็ธาตุ จากธรรมชาติ จึงการันตีได้ว่าโดยมากของผลิตภัณฑ์เสริมของกินนั้นได้มาจากสมุนไพร ได้แก่ โสมสกัดในแบบต่างๆจัดเป็นสมุนไพรพวกพืช น้ำมันตับปลา จัดเป็นสมุนไพรจำพวกสัตว์

และก็ สังกะสี หรือซิงค์ จัดเป็นสมุนไพรพวกธาตุในเนื้อหานี้จะได้เอ๋ยถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เริ่มต้นจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้เสริม สมรรถนะของร่างกาย ดังเช่น ผลิตภัณฑ์จากโสม ผลิตภัณฑ์จากเห็ดหลิงจือ สินค้าจากกระเทียม ผลิตภัณฑ์จากแป๊ะก้วย แล้วก็ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันปลา (fish oil) ตามด้วยสินค้าเสริมของกินที่เกี่ยวเนื่องกับความสวยงาม ผลิตภัณฑ์ควบคุมน้ำหนักจำพวกต่างๆ

ถ้าหากเราไม่ทานผลไม้ หรือ ผักอาหารเสริมตอบแทนกันได้ไหม?จึงๆแล้วจากการศึกษาเล่าเรียนพบว่า อาหารเสริม ไม่อาจจะทดแทนของกินมื้อหลักของพวกเราได้ทั้งผอง บางทีอาจจะชดเชยได้บางตัวยังไงก็แล้วแต่ก็ควรรับประทานอาหารมื้อธรรมดาไม่สมควรอด เนื่องจากว่าในผัก ผลไม้ ยังมีสารอาหารมากไม่น้อยเลยทีเดียวที่ไม่สามารถสกัดมาเป็นอาหารเสริมได้ทุกตัว ควรต้องกินผัก ผลไม้ด้วย

คำแนะนำสำหรับในการรับประทานอาหารเสริม

1.วิตามินต่างๆควรจะรับประทานหลังอาหารหรือพร้อมของกินเพราะร่างกายจะมองซึมอาหารเสริมได้ดิบได้ดียิ่งวิตามินซี ควรจะรับประทานหลังอาหารทันที เหตุเพราะกรดของวิตามินซี อาจจะส่งผลให้ระคายท้อง เสียดท้องได้

2.ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ไม่สมควรกินอาหารเสริมแทนอาหารหลักอาจส่งผลให้ร่างกายขาดสารอาหารได้

3.หากจะทานอาหารเสริมควรหารือหมอหรือศึกษาเล่าเรียนข้อมูลให้ดีซะก่อนด้วยเหตุว่าอาหารเสริมบางตัวอาจมีผลช้างเคียงก่อให้เกิดอันตรายได้

4.ควรจะบริหารร่างกาย รวมทั้งพักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากอาหารเสริมไม่ใช่ยาวิเศษไม่สามารถที่จะรักษาได้ทุกโรค ควรเลือกทานอาหารเสริมอย่างพอเหมาะพอควร

guymanningham

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *